นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอเดรีย โกลบอล จำกัด ("บริษัท") เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของเว็บไซต์ www.Jobdailyth.com “จ็อบเดลี่” หรือ “Jobdaily” ซึ่งถือเป็นบริการหนึ่งของบริษัท ("บริการ") เมื่อผู้ใช้งานสมัครบัญชีใช้งานของบริษัทผ่านเว็บไซต์ www.Jobdailyth.com จะถือว่าเป็นผู้ใช้งานบน เว็บไซต์ www.Jobdailyth.com ("ผู้ใช้งาน"หรือ “ท่าน”) และในการให้บริการแก่ท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ดังนั้น บริษัทจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่บริษัท จะดำเนินการให้ท่าน ในฐานะผู้ใช้งานรับทราบ กรุณาอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างรอบคอบเพื่อให้ท่านเข้าใจถึงหลักการและวิธีการใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการที่ท่านใช้เว็บไซต์นี้ หรือนำข้อมูลจากเว็บไซต์นี้ไปใช้ ให้ถือว่าท่านยอมรับตกลงที่จะปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับการให้บริการของบริษัทเท่านั้น ไม่มีผลใช้บังคับ กับ แอปพลิเคชั่นและบริการหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่อาจมีการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นของบุคคลภายนอกที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้งานต้องทำความตกลงและศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้แอปพลิเคชั่น บริการหรือเว็บไซต์ดังกล่าวแยกต่างหาก

บริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้ตลอดเวลาโดยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูกประกาศไว้บนเว็บไซต์นี้และจะถือว่ามีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทได้ประกาศไว้บนเว็บไซต์นี้


คำนิยาม

บริษัท หมายถึง บริษัท เอเดรีย โกลบอล จำกัด
ใบสมัคร หมายถึง ใบสมัครที่ผู้ใช้งานที่ประสงค์จะหางานหรือสมัครงานทำขึ้นตามตำแหน่งงานที่ปรากฏหรือโฆษณาบนเว็บไซต์
ประวัติ หมายถึง ประวัติหรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่ประสงค์จะหางานหรือสมัครงาน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงานที่ถูกจัดทำโดยผู้ใช้งานดังกล่าว ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในระบบบนเว็บไซต์ โดยความยินยอมของเจ้าของข้อมูล
ผู้ใช้งาน หมายถึง ผู้ใช้งานที่ประสงค์จะหางานหรือสมัครงาน หรือ ผู้ใช้งานประเภทผู้ประกอบการ หรือ ผู้ใช้งานอื่น เช่น ผู้ลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์ แล้วแต่กรณี เว็บไซต์ หมายถึง www.Jobdailyth.com


ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากผู้ใช้งาน

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัทได้รับข้อมูลโดนตรงและโดยอ้อมจากผู้ใช้งาน อาทิ

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป อาทิ ชื่อ-นามสกุล เพศ รูปถ่าย อายุ วัน/เดือน/ปีเกิด ความสามารถ ผลงาน ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ลักษณะงานที่ต้องการ เอกสารแนบประกอบการสมัครงานอื่น ๆ ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล ไลน์ไอดี เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ลิงค์อิน หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลใบสมัครไฟล์เอกสารประวัติ อาทิ เรซูเม่ (Resume) ใบแสดงผลการศึกษา เอกสารแสดงผลงาน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนหรือเอกสารประกอบการสมัครงานอื่น ๆ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา ซึ่งบริษัทจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หรือ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศได้ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต
  • ข้อมูลการใช้บริการ อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้งาน ดำเนินการ เช่นประวัติการค้นหางานที่ประกาศรับสมัครงาน รวมถึง ความสนใจของต่างๆของผู้ใช้งาน
  • ข้อมูลทางเทคนิคและข้อมูลเชิงวิเคราะห์ อาทิ ข้อมูลการใช้งาน การตั้งค่าและการเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งาน ใช้ในการใช้บริการของบริษัท
  • ข้อมูลที่เก็บมาจากบริการของบุคคลที่สาม ท่านอาจเลือกเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้งานที่ท่านมีอยู่กับผู้ให้บริการอื่น (เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคม Social Media) เพื่อทำให้ง่ายสำหรับการสร้างบัญชีผู้ใช้งานกับบริษัท ซึ่งหากท่านเลือกดำเนินการเช่นว่านั้นบริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำกัดจากผู้ให้บริการดังกล่าว เช่น ชื่อสกุลและที่อยู่อีเมล อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ
  • ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลโดยรวม เช่น ข้อมูลเชิงสถิติ ทั้งนี้ข้อมูลโดยรวมนั้นอาจได้มาจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจใช้ข้อมูลบางส่วนของท่านโดยทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลนิรนามเพื่อคำนวณอัตราของผู้ที่เข้าใช้งาน หรือทำข้อมูลเชิงสถิติต่าง ๆ

บริษัทตระหนักดีว่าข้อมูลที่นำมาใช้จะต้องไม่สามารถกลับมาระบุตัวตนได้ เมื่อใดก็ตามที่ข้อมูลสามารถกลับมาระบุตัวตนได้ บริษัทจะถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้


วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้และประมวลผลข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล

  • เพื่อการให้บริการแก่ผู้ใช้งาน อันรวมถึง เพื่อการยืนยันตัวตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆของผู้ใช้งานเพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินค่าบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้งาน เป็นต้น
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมอบหมายให้แก่บริษัท
  • เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท เช่น การรักษาความสัมพันธ์กับท่าน การยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัท และการป้องกันหรือตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท เป็นต้น
  • เพื่อการวิเคราะห์และเสนอแนะตำแหน่งงานหรือผู้สมัครงานที่เหมาะสม โดยหน่วยงานวิจัย หรือที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้งานในการใช้บริการ
  • เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้งาน เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการ ตามความสนใจของผู้ใช้ บริการได้มากขึ้น หรือ เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้งาน
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือ การส่งคำร้องต่างๆ
  • เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และ ระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษี หัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด

วัตถุประสงค์ในการการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อการให้บริการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทอาจมีความ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ในกรณี ดังนี้

  • บริษัทอาจมีความจำเป็นเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ที่ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการให้บริการของบริษัท เช่น ที่ปรึกษา ผู้รับจ้างให้บริการ ผู้รับ จ้างขนส่ง รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการบริการของบริษัท เช่น Google Analytics ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
  • บริษัทอาจเปิดเผยด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้บริการ ได้แก่ ตั้งเซิฟเวอร์ของบริษัทเอง
  • บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิของบริษัทหรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท โดยผู้ใช้งาน ในลักษณะต่างๆ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็น เท่านั้น
  • ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของ หน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้แก่ หน่วยงานดังกล่าว เพื่อ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีตามกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกส่งไปยังบุคคลภายนอกที่อยู่ต่างประเทศ หรือเครื่องแม่ข่าย (Server) รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานที่ปรึกษา หรือบริการด้านการวิจัย ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เท่าเทียมกับประเทศไทย ดังนั้น บริษัทจะทำให้มั่นใจก่อนโอนข้อมูลอย่างเหมาะสมตามมาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายของประเทศไทย การโอนข้อมูลดังกล่าวจะกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายตามสัญญา เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม สาธารณะประโยชน์ ภารกิจของรัฐมอบหมายและตามที่ได้รับความยินยอมจากท่าน


ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวัตถุประสงค์ข้างต้น โดย บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้ บริการยังคงเป็นผู้ใช้งานของบริษัทอยู่ และบริษัทสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลัง จากผู้ใช้งานยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และต่อสู้สิทธิต่างๆของบริษัท เว้น แต่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น บริษัทอาจมี ความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ปี


Cookies ที่บริษัทใช้ในการให้บริการ

Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การ ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพฤติกรรมการใช้บริการของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพใน การให้บริการของบริษัทแก่ผู้ใช้งาน บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ ต่างกันไป ดังที่ระบุต่อไปนี้

  • Functionality Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้งานเลือก หรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบแพลตฟอร์ม เพื่อการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการ เฉพาะบุคคล ให้แก่ผู้ใช้งานได้มากขึ้น ตามการตั้งค่าต่างที่เลือกไว้
  • Advertising Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชมและรวมถึง ลักษณะการใช้ บริการของผู้ใช้งาน เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของ ผู้ใช้งาน และใช้เพื่อการประเมินประสิทธิผลของการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆของระบบ
  • Strictly Necessary Cookies เป็นคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานเพื่อ การให้บริการของบริษัท มีความจำเป็นเพื่อให้การใช้บริการโดยผู้ใช้งานสามารถทำได้ อย่างทั่วถึงและปลอดภัย

แม้ว่าการใช้คุกกี้จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ และการทำงานให้บริการ ของบริษัท แต่หากผู้ใช้งานต้องการ ผู้ใช้งานสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตนเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องรับทราบว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานให้บริการของบริษัทได้ในบางส่วนตามจุดประสงค์การทำงานของคุกกี้ที่ระบุไว้


การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

บริษัทอาจมีการมอบหมายหรือจัดจ้างบุคคลที่สามทั้งในและต่างประเทศ (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างตามสัญญาในรูปแบบอื่นที่จำเป็นในการให้บริการกับผู้ใช้งาน ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้บริษัทจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล


การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณีบริษัทอาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการศึกษา หน่วยงานที่ปรึกษา หรือบริการด้านการวิจัยในต่างประเทศ ( เช่น ประเทศเนเธอแลนด์ เป็นต้น) ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดชื่อประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนั้นหากบริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไปยังประเทศปลายทาง บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากลหรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย เช่น

  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้ใช้งานเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือเป็นการทำตามคำขอของผู้ใช้งานก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
  • เป็นการกระทำตามสัญญาของผู้ใช้งานกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ใช้งาน
  • เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
  • ได้แจ้งให้ผู้ใช้งานทราบและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

บริษัทจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้การเปลี่ยนแปลง การแก้ไขหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ เมื่อบริษัทมีการส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ


สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้ใช้งาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านผู้ใช้งาน ซึ่งได้แก่ สิทธิ ดังนี้

  • 1สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้องและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 2สิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้ ยกเว้นในกรณีบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล หรือการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • 3สิทธิขอรับข้อมูล ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลที่บริษัทส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
  • 4สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด แบบตรง การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติ เว้นแต่การดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • 5สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบริษัทจะหยุดประมวลผลข้อมูลดังกล่าวของท่าน อย่างไรก็ตามในกรณีที่แม้ว่าการประมวลผลจะไม่จำเป็นอีกต่อไปแต่การเก็บรักษา ข้อมูลนั้นไว้ยังคงจำเป็นเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้ 1) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือ 2) ข้อมูลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องหรืออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า กรณีเช่นนี้บริษัทจะยังเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพียงเท่าที่จำเป็น
  • 6สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้ หรือใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลทั้งการตลาดแบบตรงและอื่น ๆ หรือมีการประมวลผลอันมิชอบด้วยกฎหมาย และกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
  • 7สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบ หรือ เมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
  • 8สิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐ เมื่อพบว่าบริษัท ลูกจ้างหรือ ผู้รับจ้างของบริษัท กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถติดต่อมายังบริษัท เพื่อขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ บริษัทได้กำหนดไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาการ ขอใช้สิทธิ ให้ผู้ใช้งานทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว


ติดต่อเรา
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท และ/หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้
บริษัท เอเดรีย โกลบอล จำกัด
เลขที่ 78/8 แขวงลำโพ เขตบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
ช่องทางการติดต่อ: 064-337-3475
แผนก ซัพพอร์ต อีเมล: [email protected]
We use cookies to improve our website. By continuing to use this website, you will agree to the use of cookies.
For more information.